เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้

ทำไมต้องมีนิทานดาว

เวลากลางคืนที่ฟ้าใส แสงจันทร์ไม่รบกวน ถ้าคุณออกไปข้างนอก คุณจะเห็นดาวหลายดวงบนท้องฟ้า ยิ่งถ้าคุณอยู่ห่างจากแสงสว่างของชุมชน ดาวที่คุณเห็นก็จะมีจำนวนมากขึ้นจนนับไม่ถ้วน

ในสมัยโบราณที่ไร้แสงไฟเมือง ดาวที่เห็นยิ่งพราวตา และด้วยวิสัยมนุษย์ จึงมีการจัดแยกดาวเหล่านั้นตามแนวของดาวเรียงเด่นออกเป็นชุด ต่างจากลุ่มอื่นพวกอื่น จัดชุดแล้วก็สร้างเรื่อง หรือหยิบตำนานที่มีอยู่แล้ว มาเล่ากำกับว่าเป็นที่มาของดาวชุดนั้น

วัตถุท้องฟ้าบางดวงที่เด่นมากมักมีเรื่องเฉพาะเป็นพิเศษ เราจึงมีตำนานดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์มากกว่าตำนานวัตถุท้องฟ้าชนิดอื่น

ทั้งหมดนี้คือที่มาของนิทานดาว

นิทานที่มาจากตำนาน เรื่องเล่า ที่ตกทอดมาจากอดีต มาถึงยุคของเราผ่านหลายปาก กลายเป็นเรื่องที่คล้ายๆ กันหลายเรื่อง
แต่ละวัฒนธรรมจัดชุดดาวไม่เหมือนกัน ชุดดาวที่เรารู้จักในปัจจุบันถูกจัดกลุ่มโดย IAU (สหพันธ์ดาราศาสตร์สากล) เมื่อ พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) กลุ่มดาวมาตรฐานของ IAU มี 88 กลุ่ม จัดให้มีขอบเขตติดต่อกันครอบคลุมทั้งท้องฟ้า แบ่งเขตตามดาวเรียงเด่นในวัฒนธรรมสุเมรีย-กรีก-ยุโรปตะวันตก ซึ่งมีตำนานเกือบครบทุกกลุ่มดาว

(คำว่า กลุ่มดาว เป็นคำแปลของ constellation โดยทั่วไปหมายถึงกลุ่มดาวมาตรฐาน 88 กลุ่ม ส่วนในภาษาไทย คำว่า ดาว ใช้กับทั้งดาวที่มีดวงเดียว เช่น ดาวเหนือ ดาวศุกร์ และใช้กับดาวที่มีหลายดวงแล้วเรียกรวมกัน เช่น ดาวจระเข้ ดาวลูกไก่ ดาวมิคสิระ ชื่อดาวไทยเหล่านี้ไม่เรียกด้วยคำว่า กลุ่มดาว)

วัฒนธรรมอื่นในโลกจัดชุดดาวในท้องฟ้าไม่เหมือน IAU และส่วนใหญ่ไม่ได้จัดชุดดาวหมดทั้งท้องฟ้า ที่จัดได้ครบอีก 3 วัฒนธรรมคือจีน อินเดีย และพม่า ทุกวัฒนธรรม ไม่ว่าจะรู้จักดาวทั้งท้องฟ้าหรือไม่ มีตำนานเรื่องสร้างโลก สร้างฟ้า และที่มาของชุดดาวหรือดวงดาวที่สำคัญสำหรับวัฒนธรรมนั้น

ขอบเขตของกลุ่มดาวมาตรฐาน 88 กลุ่มในท้องฟ้า เส้นประคือจุดที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านกลุ่มดาวในรอบปี

ทำไมทำเป็นพอดคาสต์ ไม่เป็นบทความ

ผมชอบฟังและอ่านนิทาน และชอบดูดาว เมื่ออ่านเจอตำนานเกี่ยวกับดาวที่ไหน ก็จะตื่นเต้นว่าดาวนี้มีที่มาแบบนี้ด้วย เริ่มจากตำนานกรีก แล้วอ่านข้ามไปพบว่าชาติอื่นเขามองดาวไม่เหมือนกับมาตรฐาน IAU ตำนวนดาวแบบนี้บางเรื่องค้นหาจนเจอ บางเรื่องอ่านเจอโดยบังเอิญแล้วเก็บรวบรวมไว้

แล้วทำไมทำพอดคาสต์ ไม่เขียนเป็นหนังสือล่ะ

อันนี้เพราะตอนที่คิดทำ มีความจำเป็นต้องหัดพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก เลยหาวิธีพูดใส่พอดคาสต์เป็นแบบฝึกหัด จะได้พูดใส่ไมโครโฟนเล่าเรื่องอะไรบางอย่าง และในเมื่อมีความชอบตำนานดาว มีเนื้อหาที่พูดได้มาก จึงเอามาทำเป็นพอดคาสต์นิทานดาวเสียเลย

บทพอดคาสต์ที่เขียนไว้ แทบจะเป็นบทความอยู่แล้ว แปรรูปไปทำเป็นบทความได้ไม่ยาก

พอดคาสต์แบบไขขานฯ

ไขขานมิทานดาว จะหยิบกลุ่มดาวมาตรฐานของ IAU ขึ้นมากลุ่มหนึ่ง เล่าเรื่องตามตำนานของเกลุ่มดาวนั้นในขนบกรีก แล้วเล่าเรื่องของดาวในชุดเดียวกันจากวัฒนธรรมอื่น รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวเนื่อง เท่าที่จะหาได้

บางทีอาจเล่าเรื่องดาวของวัฒนธรรมอื่นไปก่อนเลย เช่นคราวตำนานไหว้พระจันทร์ของจีน และอาจมีแนะนำวัตถุท้องฟ้าที่น่าสนใจในกลุ่มดาวนั้น หรือประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในกลุ่มดาว

เรื่องที่นำมาเล่า ถ้าไม่มีในภาษาไทย จะแปลและเรียบเรียงจากภาษาอังกฤษ หรือบางทีต้นเรื่องเป็นภาษาไทยโบราณ ก็จะทำภาษาให้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ฟังในยุคนี้

และที่ไม่เหมือนใคร คือมีกลอนนำเรื่อง บอกกล่าวถึงเนื้อหาโดยสรุปของตอนนั้น เท่าที่กลอนบทเดียวจะทำได้ และถ้านึกสนุกกว่านั้น ก็จะเล่าเรื่องเป็นกลอนหรือคำประพันธ์อื่นด้วย